วันอาทิตย์ , กันยายน 8 2024
Breaking News
Home / ลดน้ำหนัก / 7 ประโยชน์ที่สมองจะได้รับจากการออกกำลังกาย ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

7 ประโยชน์ที่สมองจะได้รับจากการออกกำลังกาย ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

การออกกำลังกายไม่เพียงช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อโทนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เรามีความสุขขึ้นและฉลาดมากขึ้นอีกด้วย บางทีเพื่อนๆ หลายคนอาจจะออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อหรือเพื่อลดหน้าท้อง หรือแม้แต่เป็นการลดความเสี่ยงในการเป็นโรคร้ายอย่างโรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็ง

“การออกกำลังกายคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะทำให้กับสมองของเรา ในแง่ของการส่งเสริมสุขภาพจิต ความจำ และการเรียนรู้” กล่าวโดย จอห์น ลาเต้ จิตแพทย์จากโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด “แม้ว่าจะออกกำลังกายเพียงแค่ 10 นาที ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสมองได้” หากเพื่อนๆ ต้องการแรงบันดาลใจล่ะก็ เนื้อหาต่อจากนี้ไปคือ 7 ประโยชน์ที่สมองจะได้รับจากการออกกำลังกาย

1. ช่วยลบล้างผลเสียที่เกิดจากความเครียด

การวิ่งบน treadmill หรือเครื่อง Cross Trainer นาน 30 นาที จะช่วยลดความตึงเครียดได้ โดยการเพิ่มฮอร์โมนเซโรโทนิน , โดพามีน และนอร์อิพิเนฟริน และที่วิเศษกว่านั้นคือมันช่วยลบล้างผลลัพธ์ที่ความเครียดมีต่อกระบวนการสร้างริ้วรอยได้ด้วย อ้างอิงข้อมูลการวิจัยของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในปี ค.ศ.2010 นักวิจัยค้นพบว่าพวกอาสาสมัครผู้หญิงที่ออกกำลังกายอย่างจริงจังโดยเฉลี่ย 45 นาที ในช่วงระยะเวลา 3 วัน จะมีเซลล์ที่แก่ตัวช้าลงเมื่อเทียบกับคนที่มีความเครียดและไม่ได้ออกกำลังกาย “การออกกำลังกายช่วยเร่งการสูบฉีดเลือดของสมองตรงบริเวณที่มีหน้าที่คอยหยุดยั้งความคิดที่สร้างความเครียดซ้ำๆ”

2. ช่วยลดภาวะซึมเศร้าได้

การวิจัยพบว่า การเผาผลาญพลังงาน 350 แคลอรี่ 3 ครั้งต่อสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง จะช่วยลดภาวะซึมเศร้า ซึ่งได้ผลพอๆ กันกับการใช้ยา นั่นเป็นเพราะการออกกำลังกายจะไปกระตุ้นการสร้างนิวตรอนในสมองส่วนที่ได้รับความเสียหายจากภาวะซึมเศร้า การวิจัยในสัตว์พบว่าการออกกำลังกายจะส่งเสริมการสร้างโมเลกุลในสมอง ซึ่งมีหน้าที่ส่งเสริมการเชื่อมต่อเซลล์ประสาท มันจึงทำหน้าที่เป็นเหมือนกับยากล่อมประสาทตามธรรมชาติ

การวิจัยในปี ค.ศ.2010 พบว่าการฝึกโยคะ 3 ครั้งต่อสัปดาห์สามารถช่วยเพิ่ม GABA ในสมอง ทำให้อารมณ์ดีขึ้นและช่วยลดความวิตกกังวล โดยนักวิจัยกล่าวว่าเราสามารถฝึกโยคะแทนการใช้ยาโรคซึมเศร้าได้

3. ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้

การออกกำลังกายช่วยเพิ่มสารเคมีในสมอง (Growth Factor) ซึ่งช่วยในการสร้างเซลล์สมองใหม่ และสร้างการเชื่อมโยงของเซลล์สมองขึ้นใหม่เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ที่น่าสนใจคือกีฬาที่มีความซับซ้อน เช่น เทนนิส การเข้าคลาสเต้น จะช่วยส่งเสริมสมองอย่างมาก

“เช่นเดียวกับกล้ามเนื้อ เราจะต้องสร้างความตึงเครียดให้สมองเพื่อกระตุ้นให้มันเติบโต” กิจกรรมที่มีความซับซ้อน จะช่วยเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ โดยส่งเสริมทักษะในการรวบรวมสมาธิ นักวิจัยของประเทศเยอรมันพบว่า เด็กมัธยมจะสามารถทำอะไรยากๆ ได้มากขึ้นเมื่อมีการออกกำลังกายที่มีความซับซ้อน เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายทั่วไป

4. ส่งเสริมความนับถือตัวเอง และมุมมองที่มีต่อรูปร่างของตนเอง

เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรูปร่างอย่างมาก เพื่อให้ได้รับความมั่นใจจากการออกกำลังกาย การวิจัยบอกว่าเพียงแค่เรามีระดับความฟิตเพิ่มขึ้น เช่นวิ่งได้เร็วขึ้นหรือยกน้ำหนักได้มากขึ้น ก็จะช่วยเพิ่มระดับความเคารพตัวเองและรู้สึกดีกับรูปร่างตัวเองมากขึ้น

5. ทำให้เรารู้สึกร่าเริง

อาการเสพติดการวิ่ง หรือ “runner’s high” นั้นมีอยู่จริง เมื่อเราต้องการวิ่งในระดับความเข้มข้นสูง ขอแนะนำให้เพื่อนๆ ฝึกออกกำลังกายแบบ Interval ให้เราเร่งความเร็วในวิ่ง , การปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำเป็นระยะเวลาสัก 30-40 วินาที แล้วค่อยลดความเร็วไปใช้เพซสบายๆ ทำสลับกันให้ได้ 5 รอบ แล้วเราจะรู้สึกดีไปตลอดทั้งวันแน่นอน

6. ช่วยให้สมองฟิต

แม้แต่การเดินเล่นก็ยังสามารถทำให้สมองฟิตและแอคทีฟได้ และช่วยป้องกันการสูญเสียความทรงจำและทักษะต่างๆ เคยมีการวิจัยในปี ค.ศ.2011 ที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Archives of Internal Medicine โดยมีระยะเวลาการวิจัย 2 ปี อาสาสมัครเป็นผู้สูงอายุ และส่วนใหญ่ไม่ได้ออกกำลังกาย แต่ทำกิจกรรมอย่างอื่น เช่น การเดินในระยะทางสั้นๆ , ทำอาหาร , ทำสวนและทำความสะอาดบ้าน แต่เมื่อเอาไปเทียบกับคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย จะพบว่าพวกเขามีคะแนนทดสอบภาวะที่สมองมีการทำงานด้านการรู้คิด (Cognitive function) มากกว่า โดยที่อาสาสมัครจำนวน 90% จะยังคงมีความสามารถใจการคิดและจำเป็นปกติอยู่

7. อาจช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้

ศูนย์วิจัยอัลไซเมอร์บอกว่า การออกกำลังกายเป็นอาวุธสำหรับต่อสู้กับโรคนี้ การออกกำลังกายจะช่วยปกป้องสมองส่วนฮิปโปแคมปัสซึ่งเกี่ยวข้องกับความทรงจำ และเป็นสมองส่วนแรกที่จะได้รับความเสียหายจากโรคอัลไซเมอร์ การวิจัยล่าสุดซึ่งตีพิมพ์ลงในวารสาร Archives of Neurology แนะนำว่า เราควรเดินหรือวิ่งจ๊อกกิ้งทุกวัน จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ หรือลดผลเสียที่จะเกิดขึ้นจากโรคในกรณีที่มันเริ่มเกิดขึ้นแล้ว มีการวิจัยในปี ค.ศ.2000 นักวิจัยชาวดัชพบว่า ผู้ชายที่ไม่ออกกำลังกายมีโอกาสเป็นอัลไซเมอร์สูงกว่าเดิมถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ

 

ขอบคุณที่มาจาก : vrunvride

Facebook Comments

Check Also

ลดความอ้วนผิด ๆ เสี่ยงต่อปัญหาด้านจิตเวช

“โรคอ้วน” เป็นป …