วันอาทิตย์ , กันยายน 8 2024
Breaking News
Home / เกร็ดความรู้ คู่ความงาม / ความเข้าใจผิดในการดูแลผิว อยากผิวสวยต้องเลิกด่วน !

ความเข้าใจผิดในการดูแลผิว อยากผิวสวยต้องเลิกด่วน !

รวมลิสต์ ความเข้าใจผิดในการดูแลผิว ฮัลโหลเพื่อน ๆ มาเมาท์มอยกันหน่อยเร็ววว สำหรับในบทความนี้อยากชวนเพื่อน ๆ มา talk ในประเด็นของ ‘ การดูแลผิว ‘ กันหน่อย ถ้าพูดถึงเรื่องของการบำรุงผิว บอกเลยว่ามีหลายเคล็ดลับ หลายทริคมากมายที่หลั่งไหลเข้ามาให้ลองทำตาม บางอย่างทำแล้วก็เห็นผลแต่ก็มีหลายอย่างที่บ้ง จนกลายเป็นความเข้าใจผิด ๆที่เพียงแค่ไม่ช่วยให้ผิวเราดีขึ้น แต่ยังอาจทำร้ายผิวได้โดยไม่รู้ตัวบทความนี้เลยอยากชวนเพื่อน ๆ มาพูดคุยเบิกเนตรถึงความเข้าใจผิดในการดูแลผิวใครอยากผิวปังต้องไปทำความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับการบำรุงผิวพร้อมกันเลย

Top 10 ความเข้าใจผิดในการดูแลผิว ทำบ่อยผิวพังไม่รู้ตัว

1.ยิ่งใช้สกินแคร์เยอะ หลายขั้นตอน ยิ่งบำรุงผิวได้ดี

เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นทริคการลงสกินแคร์ ขั้นตอนสกินแคร์ต่าง ๆ ลิสต์มาเป็นสิบ ๆ ข้อเยอะแยะมากมาย แต่จากประสบการณ์ตรง และจากที่ได้ไปหาข้อมูลสายบิวตี้หลาย ๆ แหล่งมาแล้ว อยากจะบอกว่าขั้นตอนลงสกินแคร์ หรือทริคลงสกินแคร์ต่าง ๆ เหล่านี้เป็นแค่แนวทางการลงสกินแคร์เท่านั้นนะ ถึงจะโปะสกินแคร์เป็นสิบ ๆ ตัว แต่ถ้าเกิดว่าเลือกสกินแคร์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาผิวของเราให้ดีขึ้นได้น้าเพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องใช้สกินแคร์เยอะแค่เลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิวแก้ปัญหาผิวเราได้ตรงจุดก็พอแล้ว

2.ล้างหน้าตามรูขุมขน ไม่ทำให้ผิวอุดตัน

เราเคยได้ยินมาเหมือนกันว่าการล้างหน้าตามแนวรูขุมขน จะไม่ทำให้ผิวอุดตัน ช่วยลดสิวได้อะไรประมาณนี้ แต่จากที่ได้ไปหาข้อมูลมาการล้างหน้าตามแนวรูขุมขนไม่ได้เป็นตัวช่วยหลักในการทำความสะอาดผิวให้สะอาดหมดจด และการล้างหน้าตามแนวรูขุมขนอาจจะเป็นขั้นตอนที่ทำให้เสียเวลาโดยใช่เหตุอีกด้วยลองแก้ปัญหาจากตัวการหลักที่ทำให้เกิดการอุดตันอย่างเช่นโฟมล้างหน้าและสกินแคร์

ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนบางเบา ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน น้ำที่ใช้ล้างก็ควรจะเป็นน้ำสะอาด และทำความสะอาดสิ่งที่สัมผัสกับใบหน้าอยู่เสมออย่าง ปลอกหมอน โทรศัพท์ มือเราเองให้ปลอดเชื้อโรคอยู่เสมอ จะช่วยเลี่ยงไม่ให้รูขุมขนเกิดการอุดตันได้

3.ผิวต้องมีวันพักจากการใช้สกินแคร์

สำหรับใครที่เคยมีความคิดว่าควรเว้นระยะการใช้สกินแคร์ทุกชนิด เปลือยหน้าสดไปเลยไม่ต้องทำอะไรกับมัน เพื่อให้ผิวไม่เจอกับสารเคมีสักวันสองวัน ใครที่ยังมีความเชื่อแบบนี้ขอกดตุ่มหยุด STOP รัว ๆ เลย !! ถ้าเป็นการพักหน้าจากเครื่องสำอาง พักจากการแต่งหน้า ถือว่าเป็นประโยชน์ให้ผิวได้ผ่อนคลาย แต่เราไม่จำเป็นต้องพักจากการทาสกินแคร์น้าโดยเฉพาะการทากันแดด และ การทามอยส์เจอไรเซอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นประจำทุกวันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ปรับสมดุลผิวให้แข็งแรง

4.ไม่จำเป็นต้องทากันแดด 2 ข้อนิ้วก็สามารถปกป้องผิวได้

มาพูดถึงเรื่องของครีมกันแดดกันต่อ กับความเชื่อที่ว่าไม่จำเป็นต้องทากันแดด 2 ข้อนิ้ว ก็สามารถปกป้องผิวได้ สำหรับความเชื่อนี้เรียกได้ว่ามมีข้อถกเถียงกันมาเยอะมาก ว่าการทากันแดด 2 นิ้วดีจริงมั้ย? ไม่ทำให้หน้าวอก หรือหนักหน้าเกินไปหรอ? แต่ทางเราก็ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่สนับสนุนการทากันแดด 2 ข้อนิ้วนะ เพราะจากที่หาข้อมูลจากบล็อกสายบิวตี้ต่าง ๆ และจากหมอผิวหนังก็ได้ออกมาแนะนำให้ทากันแดดประมาณ 2 นิ้วเต็ม ๆ หรือ 2 มิลลิกรัมต่อตารางเซนติเมตรเป็นปริมาณมาตรฐานในการทากันแดดเพื่อให้มีประสิทธิภาพ และเดี๋ยวนี้มีกันแดดหลายยี่ห้อที่พัฒนามาให้มีเนื้อบางเบา และสามารถใช้ร่วมกับเครื่องสำอางได้ โดยไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องหน้าวอก หรือหนักหน้าเลยด้วย

5.อยากขาวให้สครับผิวทุกวัน

สำหรับความเชื่อนี้จากที่ได้ไปหาข้อมูลจากบล็อกบิวตี้ต่าง ๆ ทั้งคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังโรงพยาบาลสมิติเวช และจากประสบการณ์ของเราเอง บอกเลยว่าความเชื่อสครับผิวทุกวันจะทำให้ขาวขึ้นไม่ได้เป็นความจริงเลยนะถึงจะขัดยังไงก็ทำได้แค่ผิวเนียนใสขึ้นมาแค่นั้น ให้เปลี่ยนเฉดสีผิวไปเลยไม่มีทางแน่นอน และจากคำแนะนำของคุณหมอ ยังบอกด้วยว่าการขัดผิวบ่อยเกินไป ใช้สารสครับที่มีความแรงมากเกินไป จะทำให้ผิวหนังเสียความชุ่มชื้นและไปกระตุ้นการอักเสบทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง หรือผื่นคันขึ้นได้ด้วยนะ

6.การทานคอลลาเจน ทำให้ริ้วรอยดูจางลง

สำหรับการทานคอลลาเจนอาจมีส่วนช่วยที่ส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ริ้วรอยดูลดลงในระยะสั้น
แต่คอลลาเจนแบบทาหรือมาสก์หน้าคอลลาเจนทางแพทย์ผิวหนังได้ออกมาให้ข้อมูลว่าอาจจะไม่ได้เห็นผลมากขนาดนั้นเพราะคอลลาเจนมีโมเลกุลที่มีขนาดใหญ่ เลยอาจทำให้ไม่สามารถดูดซึมเข้าผิวได้ผลที่ได้จะเป็นเหมือนแค่ครีมทาหน้า เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ทั่วไป และไม่ทำให้ริ้วรอยลดลงนั่นเอง

7.ทำหัตถการดีกว่าการใช้สกินแคร์

ถึงแม้ว่าหัตถการจะทำให้สภาพผิวดีขึ้นแบบเห็นผลเร็วกว่าสกินแคร์ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทำหัตถการยิงเลเซอร์อย่างเดียวแล้วผิวจะดีไปตลอดเลยยังไงเราก็ควรจะมีการปกป้องและบำรุงผิวให้แข็งแรงควบคู่กันไปด้วยซึ่งสกินแคร์ก็มีส่วนช่วยในเรื่องนี้ได้ดีด้วยนะ ทั้งเรื่องของการปกป้องผิวด้วยการทากันแดดอย่างเป็นประจำ การบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น และมีความสมดุลอยู่เสมอ เรียกได้ว่าการทำทั้งหัตถการและการใช้สกินแคร์นั้นมีส่วนช่วยดูแลผิวได้ดีตามหน้าที่ที่แตกต่างกันนั่นเอง

8.ทุกคนต้องลองทำ Botox สักครั้งในชีวิต

เดี๋ยวนี้จะเห็นคอนเทนต์แบบนี้บ่อยมาก ประมาณว่าก่อนอายุเท่านี้ ควรต้องทำหัตถการแบบนั้นแบบนี้เยอะแยะมากมาย ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นการตลาดของคลีนิกที่ทำให้เราคล้อยตามอยากลองไปทำหัตถการดูบ้างนั่นเอง แต่บอกเลยว่าอย่าเพิ่งคล้อยตามไปซะหมด ถึงแม้ว่าการทำหัตถการ อย่างการฉีด Botox ที่หลายคนแนะนำ จะให้ผลลัพธ์ที่เห็นผลดีได้อย่างรวดเร็ว แต่มันสามารถแสดงผลได้ในระยะสั้นเท่านั้น และยังมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงอีกด้วย

9.ฉีด Botox ต้องไปทำถี่ๆ

ยังอยู่กับความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการทำหัตถการยอดฮิตอย่าง Botox บางคนอาจจะคิดว่าฉีด Botox แล้วต้องทำซ้ำ ๆ ถี่ ๆ ถึงจะเห็นผลดี แต่ความจริงแล้วการฉีด Botox ให้ได้ผลดีที่สุด คือควรทำแต่พอดี เป็นข้อแนะนำจากคุณหมอผิวหนังเลยนะ เพราะการฉีด Botox ในช่วง 2 สัปดาห์ถึง 2 เดือน จะทำให้เสี่ยงดื้อยา Botox ระยะที่พอดีสำหรับการฉีด Botox จะอยู่ประมาณ 4 – 6 เดือน เป็นระยะเวลาที่พอดีค่า

10.เครื่อง LED ใช้ที่บ้าน คุ้มค่ากับการลงทุน

ในช่วงโควิดที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน เห็นได้ชัดเลยว่าอุปกรณ์ทำสวยภายในบ้านฮอตฮิตกันมาก อย่าง ‘เครื่อง LED Mask ‘ที่ฮอตฮิตแม้กระทั่งเหล่าเซเลบคนดังต่าง ๆ ก็ยังใช้กัน บางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นไอเทมคุ้มค่าที่ช่วยดูแลผิวได้เองที่บ้าน โดยไม่จำเป็นต้องไปคลีนิกแต่ทางเราขอแนะนำว่าไปคลีนิกเพื่อรักษาปัญหาผิวจะดีกว่านะคะเพราะมีการเฉลยแล้วว่า LED Mask ส่วนใหญ่ที่ใช้ที่บ้านนั้นมีกำลังแรงไม่พอที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับผิวใด ๆ ได้เลย

หากเพื่อนๆ ต้องการแก้ปัญหาผิวที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว เราแนะนำให้ลงทุนไปคลีนิก พร้อมบำรุงผิวตามสภาพผิว และปัญหาผิวของเราจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าค่ะ

การบำรุงผิวที่ถูกต้อง ทำแล้วผิวปังไม่มีพัง !

1.บำรุงผิวชุ่มชื้นและมีสมดุลดีอยู่เสมอ ด้วยมอยส์เจอไรเซอร์

สำหรับการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น บอกเลยว่าไม่ว่าจะสภาพผิวแบบไหน ควรทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อให้ความชุ่มชื้นกับผิวกันนะ เพราะการให้ความชุ่มชื้นกับผิว จะเป็นตัวช่วยให้ผิวผลิตน้ำมันในปริมาณที่พอดี ทำให้ผิวมีสมดุลที่ดี และเป็นเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรงด้วยนั่นเอง

2.ทากันแดดเป็นประจำทุกวัน

อีกหนึ่งการบำรุงผิวที่ไม่ควรขาด ถ้าอยากผิวปังแข็งแรงไปยาว ๆ ไม่ว่าจะอายุเท่าไร ควรใส่ใจทากันแดดเป็นประจำทุกวัน เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด มลภาวะ รังสี UV ต่าง ๆ ที่เป็นตัวการทำลายผิวให้เสื่อมสภาพลง และที่สำคัญห้ามลืมควรทากันแดดในปริมาณ 2 ข้อนิ้ว หรือประมาณเหรียญ 10 บาท เพื่อให้การปกป้องที่มีประสิทธิภาพที่ดี

3.เลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิว และปัญหาผิวของตัวเอง

ใครอยากผิวปังลองสำรวจสภาพผิวของตัวเองก่อนเลยว่ามีสภาพผิวเป็นยังไง และปัญหาผิวแบบไหน แล้วเลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิว หรือเลือก Active Ingredient ที่มีคุณสมบัติช่วยดูแลปัญหาผิวนั้น ๆ สำหรับใครที่มีผิวแพ้ง่าย ควรระวังในเรื่องของสารประกอบและ Active Ingredient ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองเอาไว้น้า

4.ล้างหน้าให้สะอาดหมดจด

การล้างหน้าก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญในการดูแลผิวปัง เพราะเป็นขัดตอนในการขจัดสิ่งสกปรกและสิ่งตกค้างต่าง ๆ ออกไปจากผิว การล้างหน้าให้สะอาดหมดจดเป็นประจำทุกวันจะช่วยขจัดสิ่งอุดตันออกไปจากผิวได้ และยังช่วยให้ผิวพร้อมสำหรับการบำรุงสกินแคร์ในขั้นตอนถัดไป ทำให้การลงสกินแคร์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย

5.ดูแลตัวเองให้สุขภาพดี เลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายผิว

นอกจากการบำรุงผิว ลองบำรุงและดูแลผิวจากภายในด้วยการดูแลตัวเองให้สุขภาพดี ทั้งในเรื่องของการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกายในแต่ละวัน การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ และช่วยในการบำรุงผิว ออกกำลังกายบ้าง เพื่อให้เลือดสูบฉีดไหลเวียนได้ดี และควรเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายผิวต่าง ๆ อย่างการเจอแดดจ้า ๆ เป็นเวลานาน แล้วไม่ทากันแดด การดิ่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ที่เสี่ยงต่อผิวเหี่ยวย่น อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญเลยคือควรลดความเครียดลงบ้าง เพราะว่าสุขภาพจิตใจที่ดีจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายที่ดีด้วยน้า

ที่มา : sistacafe.com

Facebook Comments

Check Also

เคล็ดลับดูแลผิวให้สวยเนียนใสทั้งตัว แม้ไม่ขาว แต่ผิวก็เนียนใสมีเสน่ห์ได้

การมีผิวสวยสุขภ …