เคล็ดลับความงามสำหรับ “สาวออฟฟิศ”

ใครทำงานเป็น “สาวออฟฟิศ” กันบ้างเอ่ย เชื่อว่าคงมีสาวๆ ยกมือกันเยอะเลยทีเดียว และปัญหาที่มักกวนใจสาวๆ ที่ทำงานนอกบ้านก็คืองานยุ่งจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง มารู้ตัวอีกทีก็โทรมจนส่องกระจกแล้วต้องตกใจกับภาพที่เห็น วันนี้เรามี 8 เคล็ดลับความงามง่ายๆ สำหรับ “สาวออฟฟิศ” ที่จะช่วยให้สาวๆ สวยได้แม้ในวันที่งานล้นโต๊ะมาฝากกัน

1.ตื่นนอนให้เช้าขึ้น

การเข้านอนให้เร็วหน่อยและตื่นเช้าขึ้นอีกนิดจะทำให้เรามีเวลาทำโน่นทำนี่ก่อนไปทำงานได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้า, การเลือก Match เสื้อผ้าอย่างมีสไตล์ รวมไปถึงการออกกำลังกายเบาๆ ยามเช้าที่จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ผิวหน้าดูเปล่งปลั่ง หรือถ้ายังมีเวลาเหลืออยู่ ควรลองนวดหน้าด้วยโรลเลอร์ที่ทำจากหยก ซึ่งเสริมสร้างกระบวนการผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยให้ผิวหน้ายืดหยุ่น ความเย็นจากหยกจะช่วยลดอาการบวมและให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย และเมื่อใช้ร่วมกับเซรั่มก็จะช่วยบำรุงผิวหน้าไปพร้อมๆ กัน

2.ทาครีมกันแดด

ครีมกันแดดไม่เพียงปกป้องผิวของเราจากรังสียูวีในแสงแดดเท่านั้น แต่ยังป้องกันผิวจากการถูกทำลายด้วยแสงสีฟ้าที่มาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะสาวออฟฟิศที่ต้องนั่งหน้าคอมวันละ 7-8 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ แนะนำให้ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านไปทำงานทุกวัน และควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง ถ้าสาวๆ คนไหนแต่งหน้าและกลัวว่าการทาครีมกันแดดเพิ่มระหว่างวันจะทำให้เมคอัพลบเลือนล่ะก็ เดี๋ยวนี้เขามีครีมกันแดดในรูปแบบสเปรย์ที่ใช้กับใบหน้าได้ รับรองสะดวกใช้ง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะหรือมันเยิ้มแน่นอน

3.ทาครีมบำรุงผิวกาย

เชื่อว่าสาวๆ ทุกคนคงทามอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวหน้ากันอยู่แล้ว แต่อย่าลืมทาครีมสำหรับบำรุงผิวกายด้วยล่ะ เพราะผิวพรรณส่วนอื่นๆ ของร่างกายก็ต้องการความชุ่มชื้นไม่แตกต่างกับผิวหน้า ยิ่งสาวๆ ที่ชอบอาบน้ำอุ่นและทำงานในห้องแอร์ทั้งวัน ผิวจะแห้งและสูญเสียความชุ่มชื้นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นนอกจาก “แฮนด์ครีม” ที่คุ้นเคยและทากันเป็นประจำอยู่แล้ว ลองเพิ่มการทาโลชั่นสำหรับผิวกายขึ้นมาอีกสักอย่าง เพื่อผิวจะได้สวยอิ่มน้ำทั่วทั้งตัวยังไงจ๊ะ

4.รวบผมป้องกันผมเสีย

การปล่อยผมในเวลาทำงานอาจไม่ผิดกฎขององค์กรส่วนใหญ่ แต่รู้หรือไม่ว่ามีผลเสียมากกว่าที่คุณคิด เส้นผมที่ยาวประบ่ามักทำให้เราเหงื่อออกมากกว่าปกติ และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวหรือผดผื่นจากการระคายเคืองต่างๆ ได้ แถมการปล่อยผมยังเปิดโอกาสให้เส้นผมถูกทำลายจากมลภาวะและความแห้งของเครื่องปรับอากาศ แนะนำให้ลองรวบเป็นหางม้าสูง, ถักเป็นเปียหลายๆ รูปแบบ หรือจะมัดเป็น “ดังโงะ” เก๋ๆ ก็ได้ เพราะนอกจากจะช่วยลดปัญหาที่ว่าได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มความทะมัดทะแมง ผมไม่ปิดหน้าปิดตา และยังช่วยป้องกันไม่ให้เส้นผมพันกันอีกด้วย

5.ใช้ดรายแชมพู

ในวันที่ต้องเร่งรีบไม่มีเวลาสระผมหรือเข้าร้านทำผม เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมดูมันเยิ้มและไม่พลิ้วสลวย ดีไม่ดีจะดูสกปรกทำให้เสียบุคลิกเข้าไปอีก อยากให้ลองใช้ดรายแชมพู เพราะใช้ง่าย ประหยัดเวลา ทั้งยังมีมากมายหลายยี่ห้อให้เลือก โดยมีคุณสมบัติหลักๆ ในการดูดซับน้ำมันส่วนเกินออกจากเส้นผม, ช่วยให้ผมไม่ลีบแบน, ลดอาการคันของหนังศีรษะ, เติมกลิ่นหอมให้เส้นผม หรือจะเรียกว่าช่วยกู้สภาพเส้นผมในวันที่ไม่มีเวลาสระผมก็คงจะไม่ผิด

6.แต่งหน้าแม้วันที่รีบเร่ง

แต่งหน้าบางๆ ในวันทำงานช่วยให้คุณดูสดชื่นและดู Professional มากยิ่งขึ้น แนะนำให้หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่ต้องการการ Touch up ระหว่างวัน และเปลี่ยนมาใช้อะไรที่ง่ายแต่ได้ผลดี เช่น BB Cream ที่มีเนื้อบางเบา, ทินท์มอยส์เจอไรเซอร์, ดินสอเขียนขอบตาและลิปกลอส พยายามเลือกใช้เครื่องสำอางที่ไม่หนักหน้าและเป็นสูตรที่ไม่อุดตันรูขุมขน จะได้ไม่ทำให้เจ้าตัวร้ายอย่าง “สิว” ตามมาแบบไม่ทันตั้งตัว สาวๆ คนไหนที่ใช้ Setting Spray สำหรับล็อกเมคอัพให้ติดทนนานที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ อาจลองเปลี่ยนมาใช้สเปรย์น้ำแร่ที่มีส่วนผสมของน้ำกุหลาบและแตงกวา เพราะจะช่วยปลอบประโลมและทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งสดชื่นอย่างเป็นธรรมชาติ

7.พกลิปบาล์มติดกระเป๋าไว้เสมอ

การทำงานในห้องแอร์ที่มีปริมาณความชื้นต่ำทำให้ริมฝีปากของเราแห้งและลอก ยิ่งหากขาดการบำรุงอย่างสม่ำเสมอด้วยแล้ว อาจถึงขั้นผิวแตกจนเลือดไหลซิบๆ ได้เลย ควรเลือกใช้ลิปมันที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เรียวปากนุ่มน่าสัมผัส อาจจะเลือกผลิตภัณฑ์ผสมทินท์ที่ให้สีบางๆ แบบธรรมชาติ เพื่อเพิ่มสีสันให้ดูสุขภาพดีขึ้นก็ได้ แต่ควรระวังส่วนผสมบางอย่างที่ลิปบาล์มที่อาจทำให้ผิวบริเวณริมฝีปากแห้งกว่าเดิม

8.ดื่มน้ำมากๆ

เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำและเหนื่อยล้า คุณสาวๆ ควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ผิวคงความชุ่มชื้นจากภายในไว้ได้ พยายามดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตรระหว่างที่คุณทำงานในแต่ละวัน ส่วนใครที่ติดกาแฟหรือชานมไข่มุก ลองเปลี่ยนมาดื่มชาเขียวอุ่นๆ แบบไม่ใส่น้ำตาล หรือน้ำผลไม้แยกกากที่ช่วยให้ร่างกายได้ Detox ดู รับรองว่าดีต่อผิวพรรณของเรามากกว่าเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนและปริมาณน้ำตาลเยอะๆ อย่างแน่นอน

ที่มา : thairath.co.th