วันอังคาร , กันยายน 17 2024
Breaking News
Home / สุขภาพ / “ระยะมะเร็งปากมดลูก” เช็กอาการก่อนลุกลามกระดูก-ต่อมน้ำเหลือง

“ระยะมะเร็งปากมดลูก” เช็กอาการก่อนลุกลามกระดูก-ต่อมน้ำเหลือง

มะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer) หนึ่งในโรคร้ายแรงลำดับต้นของสาวไทย เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่จะถูกตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก รองลงมาจากมะเร็งเต้านม โดยต้นตอของมะเร็งปากมดลูกนั้นมาจากเชื้อไวรัสที่เกิดขึ้นระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ผู้ป่วยที่รับเชื้อมาในระยะแรกมักจะไม่รู้ตัว เพราะอาการยังไม่ปรากฎแน่ชัด ส่วนใหญ่แล้วโรคจะแสดงอาการเมื่อผู้ป่วยมีอายุ 30-50 ปี

มะเร็งปากมดลูก เป็นโรคร้ายจาก เซลล์มะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณมดลูกส่วนล่างใกล้เคียงกับช่องคลอด มีต้นกำเนิดจากเชื้อไวรัส Human Papillomavirus หรือ HPV ที่ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์เป็นส่วนใหญ่

มะเร็งปากมดลูก มีวิธีสังเกตอาการอย่างไร

หากยังไม่เคยเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ผู้ป่วยสามารถประเมินความเสี่ยงของตัวเองได้ง่าย ๆ จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อสังเกตอาการผิดปกติเบื้องต้นของตัวเอง ดังนี้

  • อาการผิดปกติหลังมีประจำเดือน ที่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า เช่น ตกขาวที่มีปริมาณมากเกินไปหรือตกขาวที่มีเลือดปน ซึ่งตกขาวที่ปกตินั้นจะมีสีใส ไม่มีกลิ่นเหม็น และไม่มีอาการคันหรือระคายเคือง ที่พบได้บ่อย คือ มีเลือดออกจากช่องคลอดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงมีอาการเจ็บร่วมด้วย
  • อาการผิดปกติที่พบได้จากการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น รู้สึกปวดท้องน้อยแบบหน่วง ๆ ปวดหลังร้าวไปถึงอุ้งเชิงกราน ปัญหาการขับถ่ายที่ยากกว่าปกติ ปัสสาวะและอุจจาระมีเลือดปน รู้สึกเบื่ออาหาร มีอาการอ่อนเพลียระหว่างวัน เหนื่อยง่าย ไม่มีความกะปรี้กะเปร่า บางรายมีอาการขาบวม เนื่องจากเชื้อมะเร็งอาจลุกลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง

ระยะมะเร็งปากมดลูก

ระยะที่ 1 (เริ่มต้น)

เชื้อมะเร็งยังอยู่ในเยื่อบุบริเวณปากมดลูกเท่านั้น ซึ่งระยะนี้แพทย์สามารถประเมินขนาดของเนื้องอกได้ผ่านกล้องจุลทรรศน์ ถึงแม้ว่าขนาดเนื้องอกจะใหญ่ขึ้นมากเพียงใด แต่เชื้อก็ยังคงอยู่แค่มดลูกเท่านั้น ยังไม่เกิดการลุกลามไปสู่อวัยวะอื่น ๆ

ระยะที่ 2 (กระจาย)

เชื้อมะเร็งเริ่มแพร่กระจายไปสู่อวัยวะใกล้เคียงกับปากมดลูก เช่น เนื้อเยื่อข้างปากมดลูกและผนังช่องคลอดส่วนบน แต่ยังไม่ลุกลามไปสู่อุ้งเชิงกราน ซึ่งในระยะนี้แพทย์สามารถรักษาโดยการตัดมดลูกออกได้ แต่ในผู้ป่วยบางรายที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ แพทย์จะทำการฉายรังสีให้แทน

ระยะที่ 3 (ลุกลาม)

เชื้อมะเร็งได้ลุกลามไปยังบริเวณอุ้งเชิงกรานและผนังช่องคลอดส่วนล่าง ซึ่งระยะนี้อาจส่งผลร้ายต่อไตและต่อมน้ำเหลืองได้ เนื่องจากเนื้องอกได้ไปกดบริเวณท่อไตจนเกิดภาวะบวมน้ำนั่นเอง โดยแพทย์จะรักษาโดยการผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกรานออกและตามด้วยการฉายรังสี/เคมีบำบัด

ระยะที่ 4 (สุดท้าย)

เป็นระยะสุดท้ายที่อันตรายมากที่สุด เนื่องจากเชื้อมะเร็งได้ลุกลามไปยังกระเพาะปัสสาวะ ทวารหนัก ลำไส้ตรง รวมถึงอวัยวะส่วนอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น กระดูก ปอด ต่อมน้ำเหลือง ฯลฯ ซึ่งระยะนี้จะต้องใช้การรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือ คีโม (Chemotherapy) เท่านั้น

จะเห็นว่าความน่ากลัวของมะเร็งปากมดลูกจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาการแพร่กระจายของเชื้อมะเร็ง ดังนั้น ผู้หญิงทุกคนควรจะใส่ใจเรื่องการตรวจภายในและวางแผนเรื่องการฉีดวัคซีน HPV รวมถึงเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ทันทีโดยไม่ต้องรอร่างกายแสดงอาการผิดปกติ


วิธีรักษามะเร็งปากมดลูก

แพทย์จะประเมินความรุนแรงของโรคและกำหนดทิศทางการรักษาให้กับผู้ป่วยได้ ซึ่งในปัจจุบัน การรักษาโรคมะเร็งมีพัฒนาการด้านเทคนิคที่มีประสิทธิภาพและเข้าถึงง่าย ทั้งการผ่าตัด การฉายแสง รวมถึงยาต้านมะเร็งชนิดต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นทางเลือกใหม่ ๆ ในการรักษา ซึ่งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เชี่ยวชาญด้วยเช่นกัน เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นป้องกันโรคลุกลาม

ที่มา : pptvhd36.com

Facebook Comments

Check Also

ออกกำลังกายให้พอดีไม่น้อยเกินไป เร่งการเผาผลาญสุขภาพแข็งแรงแบบถาวร

“การออกกำลังกาย …