7 เรื่องที่ผู้หญิงเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสวยความงาม

สำหรับสาวๆ มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเชื่อเป็นในสิ่งที่ได้ยินเกี่ยวกับความเชื่อต่างๆ เกี่ยวกับความงาม โดยเฉพาะเมื่อมาจากคุณแม่ คนรู้จัก หรือเพื่อนของเราเอง ความเชื่อเช่น “เธอรู้มั้ยว่า ยิ้มมากๆ ระวังจะมีรอยตีนกาขึ้น” หรือ “เวลานั่งทำงาน หรือไปนั่งที่ไหน ลูกอย่าไขว้ห้างนะ ระวังจะเป็นเส้นเลือดขอด” ความเชื่อเหล่านี้ถ้ามาจากที่คนที่เรารัก คนรู้จักที่มักหวังดีต่อเรา จะให้เราไม่เชื่อถือได้อย่างไร

ในปัจจุบันมีความเชื่อมากมายที่เป็นความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความงามที่บอกกล่าวผ่านมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยทำให้คนรุ่นใหม่อาจมีความเข้าใจผิด และเชื่อต่อกันไปโดยไม่ทราบเหตุที่มาที่ไป เป็นเพียงเพราะเขาบอกต่อกันมา วันนี้เราจึงอยากมาให้คุณรู้จัก 7 ความเชื่อเกี่ยวกับความสวยความงามที่คุณควรเข้าใจเสียใหม่ มาดูกันว่ามีอะไรบ้างค่ะ

7 เรื่องที่ผู้หญิงเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสวยความงาม

การโกนขนทำให้ขนขึ้นมาใหม่หนาขึ้น

เรื่องของการกำจัดขนไม่ใช่เรื่องน่าอาย สาวหลายคนคงเคยได้ยินคุณแม่เตือนว่า อย่าใช้มีดโกนโกนขน เพราะจะทำให้ขนขึ้นเร็ว และดกหนามากขึ้น ความเชื่อนี้ไม่เป็นความจริง การเจริญเติบโตหรือการขึ้นของขนขึ้นอยู่กับต่อมเล็กๆ ในรูขุมขน หรือ Follicle และการโกนขนก็ไม่ส่งผลต่อการขึ้นของขนด้วย ที่คุณรู้สึกว่าขนขึ้นเร็ว หรือหนาขึ้นเป็นเพราะใบมีดโกนนั้นตัดในส่วนที่หนาที่สุดของขน และใบมีดนั้นอาจมีความด้าน ไม่คม เพราะไม่ได้ใช้ใบมีดใหม่ๆ

ขนที่ขึ้นในส่วนต่างๆ ของร่างกายนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ และการโกนขนก็เป็นความพึงพอใจของแต่ละบุคคล หากคุณเลือกในการกำจัดขนด้วยการโกน ควรเลือกใช้มีดโกนที่มีความคม หรือเครื่องกำจัดขนที่ให้ผลลัพธ์ที่คุณจะพึงพอใจในการโกนขนที่เรียบเนียนขึ้น หากเลือกการโกนด้วยใบมีด ควรเลือกโกนจากบนลงล่าง โดยถือมีดโกนทำมุม 45 องศา เพื่อการโกนที่เรียบเนียนและไม่เกิดรอยบาดจนเลือดซิบ

ยิ้มมากๆ ระวังจะมีตีนกาถามหา

ความเชื่อเรื่องยิ้มมากๆ ยิ้มกว้างๆ แล้วจะเกิดรอยตีนกา ยิ่งเป็นความเชื่อที่ผิดเข้าไปใหญ่ Dr. Doris Day แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ ศาสตราจารย์ประจำ New York University Medical Center และผู้เขียนหนังสือเล่มดัง ‘Forget the Facelift’ กล่าวว่า “ริ้วรอยรอบดวงตาของผู้หญิงนั้นมักเกิดขึ้นง่ายกับผู้หญิงที่มีผิวบาง และขาว หากคุณแม่ของคุณมีผิวประเภทนี้ คุณก็อาจมีโอกาสมีตีนกา หรือริ้วรอยรอบดวงตาได้ แต่ไม่ใช่เพราะการแจกรอยยิ้มแน่นอน”

หากไม่อยากเกิดริ้วรอย หรือมีรอยตีนกา แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดสม่ำเสมอและเป็นประจำอย่าได้ขาด รวมทั้งสวมแว่นกันแดดเมื่ออกกลางแจ้งทุกครั้ง อายครีมก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้ผิวพรรณบริเวณรอบดวงตา เพื่อให้ผิดเกินริ้วรอยได้ช้าขึ้น

ผมร่วงเป็นกรรมพันธุ์ที่เกิดจากทางด้านแม่

Dr. Joshua Zeichner ผู้อำนวยการด้านคลีนิควิจัยเครื่องอางและปัญหาผิวหนังของโรงพยาบาล Mount Sinai Hospital กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “ปัญหาผมอาจเป็นพันธุกรรมจากพ่อแม่ส่งผลต่อลูก แต่หากคุณแม่ของคุณมีผมบาง ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องผมบางเสมอไป” การที่คนเราจะมีผมร่วง หรือผมบางมาจากหลากหลายสาเหตุ เช่น เป็นเรื่องของความผิดปกติด้านฮอร์โมน การขาดสารอาหาร ความเครียด หรือการมีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น มีอาการของโรคโลหิตจาก หรือไทรอยด์ เป็นต้น

หากอยากมีผมที่ดกหนา มีสุขภาพดี ควรเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ และมีส่วนผสมของธาตุเหล็ก สังกะสี วิตามินบี วิตามินดี โปรตีน และโอเมกา 3 ที่สามารถช่วยให้ผมดกหนาขึ้น

คุณสามารถทำให้รูขุมขนเล็กลงได้ด้วยตัวเอง

หากคุณเป็นคนที่มีรูขุมขนกว้าง ที่อาจจะเกิดจากการอุดตัน หรือการอยู่กลางแดดจ้าเป็นประจำ มันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้รูขุมขนอันตรธานหายไป Dr. Joshua Zeichner กล่าวว่า “ขนาดของรูขุมขนเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ ยิ่งขนาดต่อมไขมัน หรือ Sebaceous Glands ทำงานมากขึ้น รูขุมขนของคนเราก็จะใหญ่ขึ้น และรูขุมขนสามารถมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเกิดการเป็นสิว ซึ่งเรื่องนี้อาจเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ และ
คุณทำความสะอาดใบหน้าไม่ดีเท่าที่ควร”

หากอยากทำให้รูขุมขนดูเล็กลง ต้องหมั่นขัดผิวหน้า อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สครับผิวหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว หากมีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) หรือเรตินอลยิ่งดีเพื่อช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป เพื่อไม่ให้อุดตันรูขุมขน ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

ยิ่งกำจัดติ่งเนื้อ ยิ่งทำให้มันกลับมาเพิ่มยิ่งขึ้น

หลายคนต้องเคยรู้จัก ‘ติ่งเนื้อ’ หรือ Skin Tag ก้อนเนื้อเล็กมีลักษณะนุ่ม ซึ่งเกิดขึ้นมาและเป็นติ่งอยู่บนผิวหนัง มีสีและขนาดแตกต่างกันไป คนเรายิ่งมีอายุมากขึ้น ก็มักมีโอกาสเกิดติ่งเนื้อมากขึ้น แต่ความเชื่อที่ว่ายิ่งกำจัดติ่งเนื้อ ยิ่งทำให้มันกลับมาเพิ่มยิ่งขึ้นนั้นไม่เป็นความจริง มันขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน Dr. Doris Day กล่าวว่า “การมีติ่งเนื้อเป็นเรื่องของพันธุกรรม คนส่วนมากสามารถเกิดติ่งเนื้อบนผิวได้เมื่อมีอายุมากขึ้น ส่วนมากเกิดจากการที่ผิวหนังเสียดสีกันเอง หรือเสียดสีกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ และมักจะเกิดขึ้นบริเวณหน้าอก คอ และบริเวณรักแร้”

Dr. Day เสริมว่า “หากคุณประสบปัญหาเรื่องของติ่งเนื้อ แนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการกำจัด แต่หากติ่งเนื้อนั้นไม่ได้อุปสรรคในการดำเนินชีวิต ก็ควรปล่อยมันไว้เฉยๆ และไม่ควรเอาออกด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้เลือดไหลและเกิดการติดเชื้อ”

นอนหลับไม่เพียงพอทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ดวงตา

Dr. Doris Day กล่าวว่า “การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอไม่ได้ก่อให้เกิดใต้ตาดำอย่างถาวร แต่อาจก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบนผิวที่ทำให้ดูขอบตาคล้ำขึ้น” Dr. Joshua Zeichner ช่วยเสริมเพิ่มเติมว่า “โดยปกติ คนที่มีเบ้าตาลึกทำให้เกิดแสงและเงา รวมทั้งเส้นเลือดที่อยู่ใต้ตา และสีผิวที่คล้ำสามารถก่อให้ผิวใต้ดวงตาดูดำคล้ำขึ้นได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจเกิดจากกรมพันธุ์จากพ่อแม่ แต่ไลฟ์สไตล์ก็มีส่วน เช่น การอยู่กลางแดดจ้ามากจนเกินไป นอนน้อย และการขยี้ตาแรงๆ และบ่อยๆ สามารถก่อให้เกิดขอบตาและใต้ตาดำได้”

การใช้ครีมกันแดดให้เป็นกิจวัตรประจำวัน ไม่ให้ขาด ใส่แว่นกันแดดเมื่ออยู่ในที่แจ้ง รวมใช้อายครีมที่มีส่วนผสมของเปปไทด์ หรือกรดไฮยาลูรอนิค หรือ Hyaluronic Acid ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการได้

นั่งไขว่ห้างมากๆ ก่อให้เกิดอาการเส้นเลือดขอด

Dr. Paul Jarrod Frank แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญในกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “การนั่งไขว่ห้างไม่สามารถก่อให้เกิดอาการเส้นเลือดขอดได้ เส้นเลือดที่ปูดบวมบริเวณขาเป็นเรื่องของพันธุกรรม เป็นการสืบทอดความอ่อนแอของเส้นเลือด การไหลเวียนของเลือดไม่ปกติ รวมทั้งในคนที่มีผิวขาวมากๆ และอยู่ท่ามกลางแสงแดดอาจก่อให้เกิดอาการของเส้นเลือดขอดได้”

หากคุณเกิดในครอบครัวที่อาการเส้นเลือดขอดสามารถสืบทอดมาถึงคุณ แนะนำให้พยายามอย่าปล่อยให้ตัวเองมีน้ำหนักเกิน พยายามออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และไม่ควรสูบบุหรี่ รวมทั้งอย่านั่งหรือยืนเป็นเวลานานจนเกินไป เพราะจะทำให้เลือดรวมตัวกันและสร้างแรงกดดันให้กับเส้นเลือด Dr. Doris Day กล่าวว่า “พยายามเคลื่อนไหวขาด้วยการเดินไป เดินมาบ้าง เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้เป็นปกติ”

ที่มา : central.co.th