“ลีกุมกี่” รุกตลาดซอสไทย ลอนซ์ “ซอสหอยนางรม” ใหม่ รับเทรนด์เฮลท์ตี้ฟู้ดส์ พร้อมเร่งเจาะกลุ่ม Horeca หลังฟื้นตัวดีขึ้น
วันที่ 30 พฤษภาคม 2566 นางสาวปรมตา จันทกูล ผู้จัดการธุรกิจ ลีกุมกี่ ในประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 นี้ จะเน้นเปิดตัวสินค้าใหม่ ที่ตอบโจทย์ในกลุ่มโฮเรก้า เนื่องจากเป็นกลุ่มที่กำลังกลับมาเติบโต หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งจะเห็นได้ว่าผู้บริโภคกลับมาใช้ชีวิตกันปกติเหมือนเดิม ทำให้ธุรกิจร้านอาหารมีการเติบโต แต่ในตอนนี้ยอดขายในกลุ่มผู้บริโภคที่ทำอาหารรับประทานเองที่บ้านก็เริ่มมีการปรับตัวลดลง ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่กลับมารับประทานอาหารที่สาขากันมากขึ้น
ขณะเดียวกันการที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ก็ทำให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่หันมาเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น ทำให้สินค้ากลุ่มสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นไม่มีน้ำตาล หรือไม่มีผงชูรส ได้รับความนิยมและเติบโตเป็นอย่างมาก ซึ่งบริษัทได้ขยายไลน์โดยนำสินค้าที่ตอบโจทย์สุขภาพมาทำตลาดในเอเชียต่อเนื่องในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพในไทย เราได้เริ่มทำตลาดมาได้ประมาณ 3 ปี โดยเป็นการจัดจำหน่ายในช่องทาง Horeca ได้มีผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก เราจึงมีแผนจะขยายไปในช่องทางค้าปลีกให้มากขึ้น โดยในไตรมาส 3 ปี 2566 นี้จะมีการเปิดตัว ซอสหอยนางรมที่ไม่ใส่ผงชูรส รวมถึงผลิตภัฑณ์อื่น ๆ อีกด้วย
ด้านนางสาวเชอรอล ชาน ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาดระดับภูมิภาคเอเชียใต้ ของ ลีกุมกี่ ซอส กรุ๊ป (Lee Kum Kee Sauce Group) กล่าวว่า ลีกุมกี่ดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลา 135 ปี มีสินค้ามากกว่า 300 รายการ วางจำหน่ายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และมีฐานการผลิตอื่น ๆ ใน Xinhui, Huangpu และ Jining ประเทศจีน, ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา และกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ส่วนในประเทศไทย ลีกุมกี่ได้เริ่มเข้ามาทำตลาดเมื่อ 20 ปีก่อน และปัจจุบันมีสินค้าวางจำหน่ายราว 40 รายการ ผ่านตัวแทนจำหน่าย 2 ราย ได้แก่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง และบริษัท แพนฟู้ด จำกัด
Facebook Comments