อาการปวด บวมแดง ในช่วงเป็น ‘สิวอักเสบ’ นอกจากจะเป็นปัญหาสิวที่รักษาหายได้ยากแล้ว หลังสิวหาย สิวอักเสบเหล่านี้ ยังทิ้งรอยสิว รอยแดง รอยดำ เอาใบบนผิวหน้าของเราอีกด้วยวันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้สาว ๆ แล้วค่ะ กับ 7 วิธีง่ายแสนง่ายที่ทำให้สิวยุบเร็ว ทีนี้ก็สบายใจ หายห่วง พร้อมไปงานสำคัญอย่างมั่นใจได้เลยค่ะ
1.ประคบสิวด้วย “น้ำแข็ง”
วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเลยค่ะ แถมผลลัพธ์ก็ค่อนข้างน่าพอใจ เพราะความเย็นจากน้ำแข็งจะช่วยบรรเทาสิวที่บวมเป่งและอักเสบให้ค่อย ๆ ยุบตัวลง แถมความเย็นยังช่วยกระชับรูขุมขนได้อีกด้วย ใครเป็นสิวอักเสบ รูขุมขนกว้างต้องถูกใจไม่ใช่น้อย
วิธีทำ : นำผ้าบาง ๆ มาห่อน้ำแข็ง แล้วประคบบริเวณสิวประมาณ 10-20 วินาที
Note : ไม่ควรนำน้ำแข็งมาประคบหรือสัมผัสกับสิวโดยตรง เพราะอาจทำให้แดงและระคายเคืองกว่าเดิมได้ค่ะ
2.แต้มสิวด้วย “น้ำมะนาว”
วิธีต่อมาก็คือการใช้น้ำมะนาวแต้มสิวนั่นเองค่ะ น้ำมะนาวเค้าจะมีความเป็นกรดอ่อน ๆ จาก AHA อยู่ ซึ่งความเป็นกรดสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุของการเกิดสิวได้และทำให้สิวยุบเร็วด้วย
วิธีทำ : คั้นน้ำมะนาวสด ๆ ออกมา แล้วผสมน้ำสักนิดเพื่อเจือจางไม่ให้ระคายเคืองผิวมากเกินไป จากนั้นก็แต้มบริเวณสิวไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
Note : ใครที่ผิวบอบบาง แพ้ง่าย ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้ค่ะ เพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองได้ เช่น จะรู้สึกแสบและคันยุบยิบ
3.แต้มสิวด้วย “น้ำผึ้ง + ผงอบเชย”
วิธีนี้อาจจะยุ่งยากในการหาส่วนผสมสักนิด แต่ขอบอกเลยว่าผลลัพธ์ค่อนข้างน่าพอใจทีเดียวค่ะ เพราะมีงานวิจัยบอกว่า อบเชย (Cinnamon) สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวอย่าง P.acne ได้ และทำให้สิวยุบเร็วขึ้น แต่ Side Effect คือมันทำให้ผิวแห้ง ดังนั้นการผสมน้ำผึ้งเข้าไป จะช่วยลดปัญหาผิวแห้งได้ค่ะ ซึ่งน้ำผึ้งนอกจากจะช่วยให้ความชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยให้สิวยุบเร็วด้วยเช่นกัน
วิธีทำ : ผสมน้ำผึ้งและผงอบเชยเข้าด้วยกัน ในอัตราส่วนที่เท่า ๆ กัน แล้วแต้มบริเวณสิวทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
Note : ใครที่ผิวแห้งและแพ้ง่าย แนะนำผสมน้ำผึ้งในอัตราส่วนที่มากกว่าอบเชย เพื่อลด Side Effect ของผิวแห้งและระคายเคือง
4.พอกสิวด้วย “ดินสอพอง”
ดินสอพองไม่ได้เอาไว้ใช้ในวันสงกรานต์เพียงอย่างเดียวนะเออ เพราะสามารถเอามาใช้พอกบริเวณสิวเพื่อให้สิวยุบเร็วได้ด้วย หรืออาจใช้พอกทั้งหน้าเพื่อให้ผิวเนียนนุ่ม และกระชับรูขุมขนได้เช่นกัน
วิธีทำ : นำดินสอพองมาละลายน้ำให้เป็นเนื้อข้น ๆ แล้วพอกบริเวณสิวทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
Note : การพอกทั้งหน้าไม่ควรพอกบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ผิวแห้ง และอาจเกิดริ้วรอยได้ ส่วนใครที่ผิวบอบบางแพ้ง่ายไม่แนะนำให้ใช้พอกทั้งหน้าค่ะ
5.แต้มสิวด้วย “ขมิ้นชัน”
ขมิ้นชันถือเป็นของคู่เรือนคนไทยมาเนิ่นนาน เพราะสรรพคุณด้านความงามของเค้าเยอะจริง ๆ ขมิ้นชันมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุของการเกิดสิว อีกทั้งยังบรรเทาอาการอักเสบของสิวได้เป็นอย่างดี จึงทำให้สิวยุบเร็ว นอกจากนี้ยังใช้พอกทั้งหน้าได้ด้วย ซึ่งจะทำให้ผิวกระจ่างใส เนียนนุ่มขึ้น
วิธีทำ : นำขมิ้นชันบดให้ละเอียดและผสมกับน้ำ จากนั้นนำมาแต้มสิวทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที หรืออาจพอกทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้
Note : ผิวบอบบางแพ้ง่ายไม่ควรพอกทิ้งไว้ข้ามคืน
6.แต้มสิวด้วย “ว่านหางจระเข้”
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าว่านหางจระเข้เนี่ยมีสรรพคุณหลากหลายมาก เช่น ให้ความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว ที่สำคัญคือมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดการอักเสบของสิว และช่วยให้สิวยุบเร็วอีกด้วย นอกจากนี้ว่านหางจระเข้นี้มีความอ่อนโยน จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายมากเลยค่ะ
วิธีทำ : นำส่วนวุ้นใส ๆ ของว่านหางจระเข้มาบดให้ละเอียด แล้วนำมาแต้มสิวประมาณ 20-30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
Note : ต้องล้างเอาคราบยางจากส่วนวุ้นออกให้หมด เพราะคราบยางอาจทำให้ระคายเคืองได้
7.ใช้ยาทาสิว ที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide
วิธีนี้เหมาะกับสาวขี้เกียจที่สุด เพราะเพียงแค่ซื้อยาทาสิวที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide มาทาก็จบปิ๊ง ไม่ต้องหาส่วนผสมให้วุ่นวายเลยค่ะ เพราะ Benzoyl Peroxide มีคุณสมบัติในการรักษาสิวอุดตันและสิวอักเสบ จึงช่วยให้สิวอักเสบที่บวมเป่งยุบตัวลง นอกจากนี้ยังมีความเข้มข้นให้เลือกหลายระดับตั้งแต่ 2.5% ไปจนถึง 10% เลยค่ะ
วิธีใช้ : เพื่อให้ใช้ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย แนะนำให้อ่านวิธีใช้ตามฉลากยา
Note : ควรเริ่มใช้ที่ความเข้มข้นน้อย ๆ หรือที่ความเข้มข้น 2.5% ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคือง
คราวนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมคะว่าทำยังไงให้สิวยุบเร็วได้บ้าง และวิธีทำตามก็ง่ายมาก แถมบางอย่างไม่ต้องเปลืองเงินซื้อเลย แค่เดินเข้าไปในครัวก็เจอแล้ว ใครชอบวิธีไหนก็ลองทำตามกันดูนะคะ ส่วนใครผิวบอบบางและแพ้ง่ายก็เลือกวิธีให้เหมาะสมด้วย สำคัญมาก! ใครลองทำแล้วได้ผลก็อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
ที่มา : atpskincareofficial.com
Facebook Comments